ระบบน้ำพุ่งในการเกษตร

0

ระบบน้ำพุ่ง เป็นอีก 1 ระบบน้ำทางการเกษตร ที่ลงทุนต่ำสุด การติดตั้งก็ง่าย ๆ คนที่ไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับระบบน้ำก็สามารถติดตั้งได้ สาระน่ารู้คู่เกษตร กับธัญธวัชการเกษตร นำมาแนะนำในช่วงหน้าแล้งนี้

ระบบน้ำพุ่ง คือระบบอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับให้น้ำไม้ยืนต้น ที่ต้องการความชุ่มชื้นบริเวณโคนต้น มากกว่าการให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด อย่างที่เคยนำเสนอไปเเล้วก่อนหน้านี้ โดยสามารถทำได้เองไม่ยุ่งยาก หรือแทบไม่ต้องเดินท่อน้ำใหม่ เพียงแค่เปลี่ยนจากเทปน้ำหยดเป็นเทปน้ำพุ่ง เท่านี้ก็สามารถให้น้ำต้นไม้ได้อย่างประหยัดเเละเพียงพอในช่วงหน้าเเล้งนี้

อุปกรณ์จำเป็น สำหรับให้น้ำพืชด้วย ระบบน้ำพุ่ง

1.ถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร

2.ถังน้ำขนาด 200 ลิตร

3.ปั๊มหอยโข่ง 1 นิ้ว ขนาด 0.5 แรงม้า

4.บอลวาล์ว ประมาณ 10 ตัว เพื่อปรับแรงดันในแต่ละช่วงของข้อต่อ

5.ท่อพีวีซี 1.5 นิ้ว สำหรับเดินระบบถังสูบและจ่ายน้ำเข้าสู่ท่อน้ำหยด

6.ท่อกรองน้ำเกษตร สำหรับกรองหยาบก่อนส่งน้ำเข้าท่อน้ำหยด

7.เทปน้ำพุ่ง เลือกระยะรูของการให้น้ำตามลักษณะของพืชเเละการปลูก

8.วาล์วน้ำหยด สำหรับต่อเทปน้ำพุ่ง

9.ผ้าพลาสติกดำ มีหรือไม่มีก็ได้ ใช้สำหรับคลุมทับหน้าดิน เพื่อป้องกันวัชพืช เเละเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดิน

ข้อดีของระบบน้ำพุ่ง

- ติดตั้งได้ง่ายเช่นเดียวกับระบบน้ำหยด โดยเจ้าของสวนสามารถทำเองได้ไม่ยุ่งยาก

- ใช้แรงดันน้ำในท่อต่ำกว่าระบบสปริงเกอร์

- ดูแลรักษาง่าย สามารถเปิดล้างตะกอนในท่อกรองเกษตรได้

- สามารถให้น้ำได้ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าระบบน้ำหยด เเละประยุกต์ใช้กับการให้น้ำพืชได้หลากหลายชนิด

- ราคาย่อมเยาเมื่อเปรียบเทียบกับระบบการให้น้ำรูปแบบอื่น ๆ อย่างระบบสปริงเกอร์

-เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย

-ประหยัดน้ำ ใช้ได้ดีในหน้าแล้ง

- ประหยัดเวลา สามารถปล่อยทิ้งไว้และไปทำงานอื่นได้

จึงจะเห็นได้ว่าระบบน้ำพุ่งนี้ ครอบคลุมถึงพืชพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าพืชในเเปลงปลูกที่ใช้ระบบน้ำหยด เเถมยังมีระยะการให้น้ำที่ไปได้ไกลกว่าด้วย

สำหรับขั้นตอนการติดตั้งนั้น ผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปดูวิธีการติดตั้งระบบน้ำหยด ซึ่งเราได้เเปะลิงก์ไว้ด้านล่างนี้

ข้้นตอนการติดตั้ง

เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนของระบบน้ำพุ่งนั้น มีลักษณะคล้ายขั้นตอนการติดตั้งระบบน้ำหยดทุกประการ เเต่ต่างกันที่ขั้นตอนหลังการติดตั้งวาล์วน้ำหยดแล้ว ให้คุณเปลี่ยนมาเป็นเทปน้ำพุ่งแทน จากนั้นจึงวางแนวเทปไปตามพื้นที่ระหว่างกึ่งกลางของเเปลงปลูก เพื่อให้ต้นไม้ทั้งสองฝั่งได้รับน้ำอย่างทั่วถึง

หากมองในแง่ของการใช้งานแล้ว การให้น้ำด้วยระบบน้ำพุ่งนี้ เปรียบเทียบได้กับการให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์ที่เดินระบบด้วยท่อ PE (ท่ออ่อน) โดยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วการเดินระบบด้วยท่อ PE จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งเเต่การติดตั้งที่สูงกว่าระบบน้ำพุ่งเกือบเท่าตัว แต่ข้อดีของระบบมินิสปริงเกอร์ในท่อ PE คือสามารถถอดล้างระบบได้หากเกิดการอุดตัน ส่วนระบบน้ำพุ่งจะเกิดปัญหานี้ได้ง่ายกว่า หากไม่วางระบบกรองเกษตรให้ดีเสียก่อน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรอบคอบในการติดตั้งและเลือกใช้

ทั้งนี้เราสามารถเลือกปรับใช้ระบบน้ำพุ่งร่วมกับระบบน้ำหยดได้ โดยการแบ่งโซนที่ใกล้กับปั๊มน้ำให้เป็นระบบน้ำพุ่ง และเมื่อแรงดันที่ปลายทางลดต่ำลงให้เลือกใช้ระบบน้ำหยด ซึ่งจะต้องออกเเบบแปลงปลูกพืชไว้ก่อนการวางระบบ ว่าเราจะปลูกพืชชนิดใดในพื้นที่ก่อนหลัง ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เราสามารถปลูกพืชได้หลากหลาย ตามหลักการให้น้ำที่กล่าวไปข้างต้น

ขอขอบคุณเครดิตข้อมูลจาก :นิตยสารบ้านและสวน

ครบเครื่องเรื่องเกษตร ต้องที่ธัญธวัชการเกษตร

สอบถาม-สั่งซื้อสินค้า : ร้านธัญธวัชออนไลน์ https://www.thanthavat.co.th/ หรือทั้ง 5 สาขาใน จ.เพชรบูรณ์

1. สาขายางโด่ - บ้านยางโด่ อ.วิเชียรบุรี ( เยื้องกรมบังคับคดี ) โทร.086-466-4986

2. สาขาบวงสรวง - อ.วิเชียรบุรี (ทางไปศาลสมเด็จพระนเรศวร) โทร.086-466-4990

3. สาขามรกต - อ.วิเชียรบุรี (ทางไปนาไร่เดียว) โทร. 086-466-4983

4. สาขาศรีมงคล -อ.บึงสามพัน (บ้านหนองงูเหลือม) โทร. 086-466-4995

5. สาขาบึงสามพัน - ต.ซับสมอทอด (ทางไปวังพิกุล) โทร.086-466-4989